ตอบโต้ : เอทิสต์โชว์เขลาวิจารณ์อัลกุรอานเรื่องการถือศีลอดในสถานที่ซึ่งดวงอาทิตย์ไม่ตก (ตอนที่ 3-จบ)

ด้วยพระนามของอัลเลาะฮ์ผู้ทรงกรุณาปราณีผู้ทรงเมตตาเสมอ (بسم الله الرحمن الرحيم) บทความนี้เป็นบทความในการตอบโต้ชุบฮาตหนึ่งที่เกิดขึ้นจากเอทิสต์ที่วิจารณ์อัลกุรอานโดยไม่มีความรู้ โดยเขาได้วิจารณ์ว่า อัลกุรอานสั่งใช้ให้ถือศีลอดตั้งแต่รุ่งอรุณขึ้นจนกระทั่งดวงอาทิตย์ตกดิน คำถามคือแล้วคนที่อยู่ในพื้นที่ที่ดวงอาทิตย์ไม่ตกดินเลย เขาจะทำอย่างไร? ถ้าทำตามอัลกุรอานจริง ๆ มุสลิมจะต้องอดตายแน่นอน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไปยึดผู้รู้ในการให้คำชี้แนะเหนือคำสั่งพระเจ้า ก็เท่ากับมุสลิมยกผู้รู้เป็นพระเจ้าในเชิงปฏิบัติ คำสั่งนี้ออกมาได้อย่างไร? มันเป็นตัวบ่งชี้ว่าผู้ประพันธ์อัลกุรอานไม่มีความรู้ในเรื่องภูมิศาสตร์ คนที่ออกมาแก้คำสั่งศาสนาก็คือผู้รู้ แถมยังมีความเห็นที่ต่างกันอีก บ้างว่าให้ยึดเวลาของพื้นที่ใกล้เคียง บ้างว่าให้ยึดเวลาตามซาอุ โดยประเด็นดังกล่าวถูกยกขึ้นมาจากอายะฮ์กรุ่อานที่ว่า وَكُلُوا وَاشْرَبُوا حَتَّى يَتَبَيَّنَ لَكُمُ الْخَيْطُ الأَبْيَضُ مِنَ الْخَيْطِ الأَسْوَدِ مِنَ الْفَجْرِ ثُمَّ أَتِمُّوا الصِّيَامَ إِلَى اللَّيْلِ และจงกิน และดื่ม จนกระทั่งเส้นขาว จะประจักษ์แก่พวกเจ้า จากเส้นดำ เนื่องจากแสงรุ่งอรุณ(อัลฟัจร์) แล้วพวกเจ้าจงให้การถือศีลอดครบเต็มจนถึงพลบค่ำ  (ซูเราะหฺอัลบะกอเราะหฺ – ๑๘๗) ตอบโต้ (ตอนจบ) ประเด็นที่ 4 ในต้นบทความผู้เขียนได้สรุปประเด็นว่าเอทิสต์คนนั้นได้พูดอะไรบ้าง […]

ตอบโต้ : เอทิสต์โชว์เขลาวิจารณ์อัลกุรอานเรื่องการถือศีลอดในสถานที่ซึ่งดวงอาทิตย์ไม่ตก (ตอนที่ 2)

ด้วยพระนามของอัลเลาะฮ์ผู้ทรงกรุณาปราณีผู้ทรงเมตตาเสมอ (بسم الله الرحمن الرحيم) บทความนี้เป็นบทความในการตอบโต้ชุบฮาตหนึ่งที่เกิดขึ้นจากเอทิสต์ที่วิจารณ์อัลกุรอานโดยไม่มีความรู้ โดยเขาได้วิจารณ์ว่า อัลกุรอานสั่งใช้ให้ถือศีลอดตั้งแต่รุ่งอรุณขึ้นจนกระทั่งดวงอาทิตย์ตกดิน คำถามคือแล้วคนที่อยู่ในพื้นที่ที่ดวงอาทิตย์ไม่ตกดินเลย เขาจะทำอย่างไร? ถ้าทำตามอัลกุรอานจริง ๆ มุสลิมจะต้องอดตายแน่นอน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไปยึดผู้รู้ในการให้คำชี้แนะเหนือคำสั่งพระเจ้า ก็เท่ากับมุสลิมยกผู้รู้เป็นพระเจ้าในเชิงปฏิบัติ คำสั่งนี้ออกมาได้อย่างไร? มันเป็นตัวบ่งชี้ว่าผู้ประพันธ์อัลกุรอานไม่มีความรู้ในเรื่องภูมิศาสตร์ คนที่ออกมาแก้คำสั่งศาสนาก็คือผู้รู้ แถมยังมีความเห็นที่ต่างกันอีก บ้างว่าให้ยึดเวลาของพื้นที่ใกล้เคียง บ้างว่าให้ยึดเวลาตามซาอุ โดยประเด็นดังกล่าวถูกยกขึ้นมาจากอายะฮ์กรุ่อานที่ว่า وَكُلُوا وَاشْرَبُوا حَتَّى يَتَبَيَّنَ لَكُمُ الْخَيْطُ الأَبْيَضُ مِنَ الْخَيْطِ الأَسْوَدِ مِنَ الْفَجْرِ ثُمَّ أَتِمُّوا الصِّيَامَ إِلَى اللَّيْلِ และจงกิน และดื่ม จนกระทั่งเส้นขาว จะประจักษ์แก่พวกเจ้า จากเส้นดำ เนื่องจากแสงรุ่งอรุณ(อัลฟัจร์) แล้วพวกเจ้าจงให้การถือศีลอดครบเต็มจนถึงพลบค่ำ  (ซูเราะหฺอัลบะกอเราะหฺ – ๑๘๗) ตอบโต้ (ตอนที่ 2) 2. ประเด็นต่อมา […]

ตอบโต้ : เอทิสต์โชว์เขลาวิจารณ์อัลกุรอานเรื่องการถือศีลอดในสถานที่ซึ่งดวงอาทิตย์ไม่ตก (ตอนที่ 1)

ด้วยพระนามของอัลเลาะฮ์ผู้ทรงกรุณาปราณีผู้ทรงเมตตาเสมอ (بسم الله الرحمن الرحيم) บทความนี้เป็นบทความในการตอบโต้ชุบฮาตหนึ่งที่เกิดขึ้นจากเอทิสต์ที่วิจารณ์อัลกุรอานโดยไม่มีความรู้ โดยเขาได้วิจารณ์ว่า อัลกุรอานสั่งใช้ให้ถือศีลอดตั้งแต่รุ่งอรุณขึ้นจนกระทั่งดวงอาทิตย์ตกดิน คำถามคือแล้วคนที่อยู่ในพื้นที่ที่ดวงอาทิตย์ไม่ตกดินเลย เขาจะทำอย่างไร? ถ้าทำตามอัลกุรอานจริง ๆ มุสลิมจะต้องอดตายแน่นอน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไปยึดผู้รู้ในการให้คำชี้แนะเหนือคำสั่งพระเจ้า ก็เท่ากับมุสลิมยกผู้รู้เป็นพระเจ้าในเชิงปฏิบัติ คำสั่งนี้ออกมาได้อย่างไร? มันเป็นตัวบ่งชี้ว่าผู้ประพันธ์อัลกุรอานไม่มีความรู้ในเรื่องภูมิศาสตร์ คนที่ออกมาแก้คำสั่งศาสนาก็คือผู้รู้ แถมยังมีความเห็นที่ต่างกันอีก บ้างว่าให้ยึดเวลาของพื้นที่ใกล้เคียง บ้างว่าให้ยึดเวลาตามซาอุ โดยประเด็นดังกล่าวถูกยกขึ้นมาจากอายะฮ์กรุ่อานที่ว่า وَكُلُوا وَاشْرَبُوا حَتَّى يَتَبَيَّنَ لَكُمُ الْخَيْطُ الأَبْيَضُ مِنَ الْخَيْطِ الأَسْوَدِ مِنَ الْفَجْرِ ثُمَّ أَتِمُّوا الصِّيَامَ إِلَى اللَّيْلِ และจงกิน และดื่ม จนกระทั่งเส้นขาว จะประจักษ์แก่พวกเจ้า จากเส้นดำ เนื่องจากแสงรุ่งอรุณ(อัลฟัจร์) แล้วพวกเจ้าจงให้การถือศีลอดครบเต็มจนถึงพลบค่ำ  (ซูเราะหฺอัลบะกอเราะหฺ – ๑๘๗) ตอบโต้ (ตอนที่ 1) ประการแรก เราต้องทำความเข้าใจคือคำว่า […]

โปรดเข้าใจ: อัลกุรอานและฮะดีษ ไม่ใช่สิ่งที่จะเข้าใจเองได้!

เพราะในปัจจุบัน เราต่างพบเห็นมุสลิมที่ใฝ่หาการตีความใหม่ของศาสนาจำนวนไม่น้อยที่มักจะหยิบยกตัวบทอัลกุรอานหรือตัวบทจากอัลฮะดีษมาอธิบายด้วยความเข้าใจของตัวเอง หรือด้วยความคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อสนองต่ออารมณ์ของตัวเอง หรือแม้กระทั่งสร้างความชอบธรรมต่ออุดมการณ์ทางการเมืองของตัวเองในการอ้างว่าสิ่งที่ตนยึดนั้นไม่ขัดกับหลักการศาสนา

ปัญหาต่าง ๆ นี้เกิดขึ้นเป็นผลพวงมาจากการที่มุสลิมไม่ซื่อสัตย์กับศาสนาในการปฏิบัติตามกฎวิชาการอิสลามที่สำคัญข้อนี้
การอ้างอิงความเข้าใจในตัวบทไปยังความเข้าใจของนักวิชาการอิสลามที่ได้รับการยอมรับในยุคสะลัฟ)เพราะหากปราศจากความเข้าใจของชนยุคสะลัฟแล้ว การเข้าใจในตัวบทศาสนาก็จะคลาดเคลื่อนไปจากความเข้าใจของบรรดาสาวกของท่านนะบีได้นั่นเอง

ตอบโต้ข้อกล่าวหาต่ออัลกุรอาน โดยอ้างว่าอัลกุรอานนั้นสับสนในเรื่องประวัติศาสตร์ของพระนางมัรยัม

จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่า ในไบเบิล มีอะไรมากมายที่เราสมควรจะต้องสงสัยถึงความถูกต้องของไบเบิล คำถามของเราคือ เราจะนำสิ่งที่ไม่มีความชัดเจนในตัวมันเอง มาเป็นมาตราฐานความถูกต้องหรือ? และนำสิ่งนี้มาตัดสินว่าอัลกุรอานผิดใช่ไหม? แน่นอนว่าผู้สติปัญญาจะไม่ยอมรับสิ่งนี้แน่นอน