‘ชุมชนลักเพศ’ แผนอำพรางชาติพันธุ์ลูฏในสังคมมุสลิม (ตอนที่ 2-จบ)

ชุมชนลักเพศ’ แผนอำพรางชาติพันธุ์ลูฏในสังคมมุสลิม –The SECRET Plan to Spread L.G.B.T to the Muslim World– (ตอนที่ 2-จบ) โดย ดาเนียล ฮะกีกะจู (Daniel Haqiqatjou) แปลและเรียบเรียงโดย อบูรุก็อยยะฮฺ

ประการที่สี่: Emphasize that Gay Sex is HARAM

พวกเลือกข้าง LGBT+ จะท่องซ้ำๆ แม้ว่าพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ เป็นเรื่องต้องห้าม (ทั้งทางศีลธรรม และกฎหมาย) พวกเขาจะอ้างว่า

“แต่ชาวเกย์ ก็สนับสนุนสิทธิของชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ผู้ตกเป็นเหยื่อในสังคมเลือกปฏิบัติไม่ใช่หรือ?”

ผิดถนัด ดาเนียลแย้งว่านี้เป็นแผนลวงที่หลอกสังคมมุสลิม (จากภายใน โดยพวกอุตริ) ให้คิดว่าแม้พฤติกรรมของพวกรักเพศเดียวกันจะหะรอม แต่การส่งเสริมสิทธิ LGBT เป็นเรื่องรับได้ ‘อนุญาต’ กระทั่งเป็นเรื่องน่ายกย่องในหลักการด้วย ?!?

ดาเนียลแย้งว่า ไม่ใช่เลย นี้เป็นเรื่องจับแพะชนแกะ ไม่มีความรู้ในอิสลาม

เราจะเห็น พวกนักวิชาการอ้างอิสลาม อวดอุตริในประเด็นนี้ตลอด 10 ปี นำเสนอให้แก่ชุมชนมุสลิมโดยเฉพาะในอเมริกา (พวกฉวยโอกาส อ้างการตีความ) ให้ชุมชนมุสลิม เปิดรับแนวคิดที่อนุญาต/ยินยอมให้มุสลิม สนับสนุนสิทธิ LGBT อนึ่งเพื่อหาแนวร่วมทางการเมือง ในประเด็น LGBT ร่วมด้วย

แนวคิดสนับสนุนสิทธิเกย์นี้ ค่อยๆ ขยายตัวอย่างช้าๆ แทรกซึมเป็นวาทกรรมบิดเบือนแนวทางอิสลามอันบริสุทธิ์ ที่ไม่ต้องการเสริมเติมแต่ง หรือแก้ไขใดใดอีก

ประการที่ห้า: Make the Victimizer Look BAD

เป้าหมายของพวกลักเพศ พวกเขาหวัง “ทำให้คนวิจารณ์การเป็นเกย์ ดูเป็นคนเลว เป็นอาชญากรรม”

ปฏิกิริยาเกย์โต้กลับผู้คัดค้าน คือ พวกเขามองผู้วิจารณ์เป็น “พวกล้าหลัง คร่ำครึ” อยู่ตรงข้ามกัน กับประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องที่พวกเขาพึ่งสร้างขึ้นมา เกย์จะพูดกันว่า พวกนี้เหยียดคนรักเพศเดียวกัน ไม่อดทนอดกลั้น หัวชนฝา ซึ่งนี้เป็นกรอบคิดแพร่หลายในขบวนการ LGBT ที่พยายามฉายภาพแก่โลกมุสลิม (หากแต่พวกเขาไม่เคยทบทวนมาที่ข้อเสนอ หรือกรอบคิดในโลกมุสลิมว่า บททดสอบของมุสลิมที่เป็นเกย์ จะต้องควบคุมตัวเองอย่างไร หรือต้องวางตัวอย่างไรในสังคม ผ่านความเข้าใจโดยผู้สอนศาสนา – ผู้แปล)

ประการที่หก: Step-by-Step Legal Reform “พยายามเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อไปสู่การ (ออกกฎหมาย) ปฏิรูปสังคม”

ในโลกมุสลิม หลายประเทศเคยตรากฎหมายห้าม และมีบทลงโทษพฤติกรรมรักร่วมเพศ น่าสนใจที่ กฎหมายประเภทเดียวกันเคยมีอยู่ในตะวันตกมาก่อน แต่ถูกถอดออกทีละขั้นทีละตอน (ส่วนหนึ่งเพื่อใช้เป็นอาวุธทางการเมือง) ผลิตซ้ำ ส่งต่อ (กลายเป็นบรรทัดฐานการเมืองโลก) บังคับใช้ในโลกมุสลิมอีกทอด

(ตัวอย่างคล้ายกันนี้ เช่น กระแสรณรงค์เรื่องสิทธิสตรีในแบบตะวันตกเป็นระยะเวลานานพอ ในช่วงทศวรรษที่ 1990s ก่อนที่ประเด็นเดียวกันนี้จะสร้างความชอบธรรมให้กองทัพอเมริกันเปิดฉากโจมตีอัฟกันฯ ในฐานะ ‘ผู้ปลดปล่อยสตรี’ ?!? – ผู้แปล)
เราสามารถเข้าใจ การถอดรื้อศีลธรรมทางสังคมได้ว่าเป็น ก้าวย่าง (ทีละขั้น) ของชัยฏอน

เดิมประเทศมุสลิมเคยมีบทลงโทษทางกฎหมาย แน่นอนว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนชะรีอะฮฺ แทนที่ด้วยกฎหมายอื่นเพียงชั่วข้ามคืน เว้นเสียแต่ถูกกดดัน (ทั้งทางการเมือง, เศรษฐกิจ) จากชาติตะวันตก ที่ยอมรับประเด็น LGBT+

ผู้แปลมองว่าเมื่อประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน กลายเป็นเสมือน norm (บรรทัดฐาน) ในการเมืองระหว่างประเทศ ผู้นำของประเทศมุสลิม จึงเป็นปราการด่านแรกที่มีหน้าที่ต่อรองประเด็นสิทธิฯ ซึ่งอาจค้านกันอยู่กับกฎหมายภายใน แต่นั้นก็ต้องแลกกับแรงปะทะจากประชาคมโลก ที่จ้องวิจารณ์ และยัดเยียดว่า การให้สิทธิแก่มนุษย์ ต้องเป็น ‘สิทธิในแบบตะวันตก’ ฝ่ายเดียว

(กรณีศึกษา : ‘บรูไนเริ่มแล้ว! กม.ปาหินเกย์ ไม่สนโดนประณาม #สุลต่านลั่นประเทศนี้เคารพองค์อัลเลาะห์ (เม.ย. 2019)’ https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_2378272 เดือนต่อมา (พ.ค. 2019) ได้มีการยกเลิกโทษ หลังบรูไนถูกกดดันจาก รัฐสภายุโรป และสหประชาชาติ , ‘ สุลต่านบรูไน”ระงับ”ใช้โทษปาหินเกย์หลังกระแสต้านทั่วโลก’ https://www.komchadluek.net/news/370669 )

เมื่อทบทวนถึงหกข้อหลักแล้ว ดาเนียลชวนสำรวจ “ก้าวเดิน ชัยฏอนผิดเพศ” ในสังคมของเรา เพื่อตระหนักและหาทางรับมือกับความท้าทายเรื่องอะกีดะฮฺ ในยุคร่วมสมัย


แผนทีละขั้นของชัยฏอนลักเพศ


ขั้นตอนที่ 1: Abolish Hudud

ขั้นแรก พวกลักเพศ จะผลักดันให้ชุมชนมุสลิมจำเป็นต้องละทิ้ง หุดูด (حدود) หรือ ถอนบทลงโทษทางกฎหมาย ออกเสีย เราจึงเห็นประเทศมุสลิมไม่น้อย ที่ค่อยๆถอดบทลงโทษ (ด้วยชะรีอะฮฺ) ออกจากระบบกฎหมาย

ขั้นตอนที่ 2: Decriminalize Homosexual Behavior

เมื่อไม่มีกฎหมายระบุโทษ ผู้คนก็จะไม่คิดว่าสิ่งที่เคยผิดกฎหมาย เป็นเรื่องอาชญากรรม (ไม่คิดว่ามีบทลงโทษ) อีกต่อไป การมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนกลายเป็นเรื่องปกติวิสัย

รัฐบาลอเมริกา และสภายุโรป ผลักดันมาตรการกดดันต่อประเทศใดก็ตามที่มีกฎหมายระบุโทษคนสังวาสเพศเดียวกัน

ขั้นตอนที่ 3: Legalize LGBT Spaces

คือ การให้พื้นที่อิสระ และเป็นเอกเทศเฉพาะกลุ่มนี้ ในผับ บาร์ ร้านอาหาร ซึ่งได้รับอนุญาตชอบด้วยกฎหมาย และจะไม่ถูกสั่งปิดโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาล

ขั้นตอนที่ 4: Create Protected Legal Status

สร้างกฎหมายคุ้มครองผู้ละเมิดสังคม ใครก็ตามที่เป็น LGBT จะได้รับการปกป้อง คุ้มครองจากการปทุษร้าย หรือล่อลวง ละเมิด และอาจถึงขั้นยกชาวเกย์เป็นกลุ่มคนที่วิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ไปเสียแทน

ขั้นตอนที่ 5: Legalize Gay Marriage

คือ การสมรสเพศเดียวกัน กลายเป็นเรื่องถูกกฎหมาย เรื่องนี้เอคติวิสท์เกย์ ทั้งหลายพยายามผลักดันตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในการทำให้คู่รักเพศเดียวกันเป็นเรื่องปกติที่สังคมรับได้ ผ่านการแก้กฎหมาย และยอมรับให้สถานะคู่สมรสเพศเดียวกันมีสถานะเป็นสถาบันครอบครัว

แน่นอนการรักเพศเดียวกันนั้นผิด แต่วิธีคิดของพวกเขาคือ คนมีสิทธิที่จะแต่งงานกับใครก็ได้ที่เขาต้องการ (ซึ่งเป็นอิสระแบบเดียวกันกับพวก Incest, Bestiality ฯลฯ หากรัฐอนุญาตเรื่องเกย์แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลจะต้องสั่งห้าม ความรัก/ปรารถนา ความสัมพันธ์ทางเพศรูปแบบพิศดารอื่นๆ)

การเข้าไปขัดขวางมนุษย์ ไม่ให้ฝืนธรรมชาติว่ามนุษย์มีแค่สองเพศนี้ กลายเป็นการแบ่งแยกกีดกัน ผู้มีรสนิยมทางเพศผิดธรรมชาติ

ขั้นตอนที่ 6: Introduce Hate Speech Laws

การทำให้ผู้เห็นต่าง วิจารณ์ชุมชนคนร่วมเพศเดียวกัน กลายเป็นอาชญากร แม้ข้อนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในอเมริกา แต่ในแคนาดา อังกฤษ ก็มีกฎหมายหมิ่นคนรักเพศเดียวกันแล้ว

ขั้นตอนที่ 7: Make LGBT Education Mandatory ที่ว่ามานี้ ได้เปลี่ยนการตระหนักรู้แก่คนในรุ่นต่อไปอย่างมโหฬาร

และเห็นเค้าลางว่า ประเด็น LGBT จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนการสอนให้แก่เด็กๆ เมื่อพวกเขาถึงวัยเข้าโรงเรียน

พวกเขาจะถูกบังคับทางอ้อม (กล่อมเกลาทางสังคม) ให้ต้องเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ป้องให้อุดมการณ์วิปริตเหล่านี้ เยาวชน (ไร้เดียงสา) ถูกหลอกว่ารักเป็นเรื่องเข้าใจได้ง่าย (love is love – แม้ว่าความรักบางประการนั้นจะก่อโทษต่อสังคมด้วย ก็ต้องยอมรับ !?!)

ขั้นตอนที่ 8: Gender Neutral Bathrooms

เมื่อทั้งเจ็ดข้อข้างต้นถูกยอมรับ ก็เป็นเรื่องง่ายมาก ที่จะเกิด “พื้นที่สาธารณะ” ควบคุมฟังค์ชั่นทางสังคม เช่น ห้องน้ำไร้เพศ ฐานคิดคือ ละลายแนวคิดการแบ่งแยกเพศชาย เพศหญิง ออกจากกัน ให้แน่ใจว่าทุกพื้นที่สามารถมีผู้ชาย ผู้หญิง และเพศทางเลือก ใช้ห้องน้ำร่วมกันได้

ขั้นตอนที่ 9: Parental Rights / Children Sex Change

เพิ่มการควบคุมไปที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ ซึ่งบุพการีจะไม่สามารถบังคับให้ลูกไม่เป็นเพศหลากลื่นได้ หากเช่นนั้นแล้ว จะถือเป็นการทารุณเพศวิถีเด็ก (child abuse)

ขั้นตอนที่ 10: Remove All Remaining Legal Restrictions

ยกเลิกกฎ หรือข้อห้ามทุกประการที่จำกัด การแบ่งแยก LGBT+ ไม่ว่าจะในสถานที่ทำงานหรือในโรงเรียนสอนศาสนา หรือสถานที่ประกอบศาสนกิจ เปลี่ยนการคัดค้านคนร่วมเพศเดียวกันให้กลายเป็นอาชญากรรม

ตาม 6 หัวข้อหลัก 10 ข้อย่อย ที่เอ่ยมานี้ สิ่งแวดล้อมในชุมชน ประเทศมุสลิมจะถูกเปลี่ยน แค่ภายใน 10 -20 ปี เท่านั้น เราสังเกตไหมว่า บางข้อได้เกิดขึ้นแล้วในประเทศของคุณ พึงจับจ้องไปที่ นักการเมือง พิธีกรข่าว นักวิชาการ ใครบ้างที่ผลักดันประเด็นเหล่านี้ ?

หากรู้เท่าทันแผนการ
ย่อมเป็นก้าวแรก ในการนับแผนการ

وَيَمْكُرُونَ وَيَمْكُرُ اللَّهُ وَاللَّهُ خَيْرُ الْمَاكِرِينَ
They were planning, and Allah was planning,
and Allah is the best Planner
الله المستعان


Ref The SECRET Plan to Spread L.G.B.T to the Muslim World : https://youtu.be/eYQtGEzTYKE